Mechanical Keyboard
นอกจากนี้ทาง Cherry Corp ยังแบ่งสวิตช์ออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ ตามสัมผัสและอัตราการตอบสนองของสวิตช์ได้ 2 แบบใหญ่ๆ ซึ่งจะมี Linear Switch กับ Tactile Switch โดยทั้งสองแบบนี้จะมีความแตกต่างและประเภทของสวิตช์ดังนี้
Linear Switch จะเป็นสวิตช์ที่มีแรงต้านคงที่ตลอดการกดใช้งานหรือจะเรียกว่ามีจังหวะการกดเพียงหนึ่งจังหวะก็ได้เช่นกัน โดยจะมี Cherry MX Black Switch (สีดำ) และ Cherry MX Red Switch (สีแดง) ที่ถูกรวมเอาไว้ในกลุ่มนี้
Tactile Switch จะเป็นสวิตช์ที่ได้รับความนิยมพอสมควรในปัจจุบัน ซึ่งสวิตช์แบบนี้จะมีแรงต้านไม่คงที่โดยจะมีจังหวะการทำงานสองจังหวะคือจะมีช่วงต้านการกดและช่วงระยะที่ตัวปุ่มจะไม่ต้านการกด โดยกลุ่มนี้จะมี Cherry MX Brown Switch (สีน้ำตาล), Cherry MX Blue Switch (สีน้ำเงิน), Cherry MX White Switch (สีขาว) และ Cherry MX Green Switch (สีเขียว)
Cherry MX Black Switch
สวิตช์สีดำของ Cherry MX โดยจะมีน้ำหนักการกดที่ 60 cN ซึ่งใช้แรงในการกดมากที่สุดในหมู่สวิตช์ที่นิยมนำมาติดตั้งใน Mechanical Keyboard ด้วยกัน โดยปุ่มจะเป็นแบบ Linear คือมีจังหวะการกดหนึ่งจังหวะซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นสวิตช์ที่ดีที่สุดสำหรับเล่นเกมโดยจะเหมาะกับผู้เล่นที่ชอบกดปุ่มผิดบ่อยๆ เพราะแรงต้านของปุ่มจะช่วยลดโอกาสกดผิดไปได้แต่จะไม่เหมาะสำหรับใช้พิมพ์งานแบบพิมพ์สัมผัสเพราะปุ่มกดแข็งเกินไป โดย Mechanical Keyboard ที่เลือกสวิตช์สีนี้ไปใช้งานจะมี SteelSeries 7G กับ Ducky บางรุ่น
Cherry MX White Switch
สวิตช์สีขาวของ Cherry MX โดยจะเป็นสวิตช์แบบ Tactile คือมีจังหวะกดสองจังหวะกับน้ำหนักในการกดที่ 60-70 cN ซึ่งสวิตช์นี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่แต่ Mechanical Keyboard บางรุ่นยังเลือกไปติดตั้งเอาไว้ซึ่งด้วยน้ำหนักที่ใกล้เคียงกับสีดำทำให้หลายๆ คนที่สัมผัสในครั้งแรกๆ จะเข้าใจผิดสลับกับสีดำอยู่บ่อยๆ
Cherry MX Red Switch
สวิตช์ที่มีน้ำหนักกดรองจากสีดำและเป็นสวิตช์แบบ Linear คือมีจังหวะกดเพียงจังหวะเดียวเหมือนกัน ส่วนน้ำหนักกดอยู่ที่ 45 cN โดยจะเป็นสวิตช์อีกสีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เป็นสวิตช์อีกสีที่จะนำไปเล่นเกมก็ได้หรือจะพิมพ์งานก็ดีเช่นกันด้วยน้ำหนักกดที่นุ่มกว่าสีดำ ซึ่งพอใช้งานนานๆ จะไม่เกิดอาการเกร็งระหว่างใช้งานและมีเสียงรบกวนน้อย สำหรับสวิตช์สีแดงนี้จะมีคีย์บอร์ดกลไกหลายรุ่นนิยมนำไปติดตั้ง ซึ่งจะมี Neolution E-Sport TITAN ที่เลือกใช้สวิตช์สีนี้
Cherry MX Brown Switch
สวิตช์อีกสีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันกับสวิตช์สีอื่นๆ โดยจะเป็นสวิตช์แบบ Tactile คือมีจังหวะกดสองจังหวะเหมือนกับ Cherry MX Blue (สีน้ำเงิน) โดยจะมีน้ำหนักในการกดเริ่มต้นที่ 45 cN และเริ่มทำงานเมื่อน้ำหนักกดเพิ่มขึ้นถึง 55 cN ซึ่งแม้สีน้ำตาลจะเป็น Tactile คือกดสองจังหวะก็ตามแต่ได้รับการแก้ไขให้มีเสียงกดระหว่างใช้งานลดลงจากสีน้ำเงินระดับหนึ่ง โดยสวิตช์สีน้ำตาลจะมี Mechanical Keyboard รุ่น Razer Black Widow Stealth ที่เลือกใชื้สวิตช์สีนี้ทั้งที่ปกติจะเป็นสีน้ำเงิน
Cherry MX Blue Switch
สวิตช์สียอดนิยมสำหรับ Mechanical Keyboard หลายๆ รุ่นในปัจจุบัน โดยเป็นสวิตช์แบบ Tactile คือมีสองจังหวะและมีเสียง ?คลิ๊ก? เมื่อกดปุ่มไปถึงระยะที่คีย์ทำงานที่ผู้ใช้หลายๆ คนชื่นชอบนั่นเอง โดยตัวปุ่มจะต้องการแรงกดที่ 50 cN และจะเริ่มทำงานเมื่อแรงกดเพิ่มขึ้นถึง 60 cN ซึ่งสวิตช์สีนี้เหมาะกับการนำไปใช้พิมพ์สัมผัสมากที่สุดและจะนำไปใช้เล่นเกมก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็นเกมที่ต้องการการกดปุ่มที่รัวและถี่อาจจะตอบสนองได้ไม่ดีเท่าที่ควรเพราะจุดที่ปุ่มจะเริ่มทำงาน (Operating Point) กับจุดที่ปุ่มจะรีเซ็ตและรอรับคำสั่งใหม่ (Reset Point) จะห่างกันพอตัว และด้วยเสียงที่ดังชัดเจนนั้นอาจจะรบกวนผู้ใช้คนอื่นระหว่างใช้งานอีกด้วย ซึ่งสวิตช์สีน้ำเงินนี้จะมี Mechanical Keyboar
หลายๆ รุ่นนิยมนำไปติดตั้งแต่รุ่นเด่นๆ นั้นจะมี Razer Black Widow ทั้งรุ่น Ultimate และ Tournament กับ Rosewill ก็จะมีสวิตช์สีน้ำเงินเช่นกัน
หน้าที่เข้าชม | 305,565 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 186,212 ครั้ง |
เปิดร้าน | 1 ก.พ. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 26 ก.ย. 2568 |